รถยนต์จาก Xiaomi ที่จะไม่ใช่เพียงแค่รถยนต์ไฟฟ้า เน้นพัฒนาเป็นรถยนต์อัจฉริยะ

รถยนต์​จาก​ Xiao​mi

รถยนต์จาก Xiaomi ทุ่มหมื่นล้านดอลลาร์ รุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในช่วง 10 ปีข้างหน้าสถานีโทรทัศน์ Channel NewsAsia ของสิงคโปร์ 

รถยนต์จาก Xiaomi รายงานว่าบริษัทผู้ผลิตสมาร์ตโฟนชั้นนำสัญชาติจีนอย่าง Xiaomi ประกาศเดินหน้ารุก ตลาดอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยการจัดสรรเงินลงทุนรวม 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 10 ปีข้างหน้า

เพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ภายใต้บริษัทใหม่ที่ทาง Xiaomi ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อดูแลด้านรถยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะรายงานระบุว่า ทาง xiaomi รถยนต์ไฟฟ้า ได้แต่งตั้งให้ เหลย จุน (Lei Jun) มหาเศรษฐีผู้ร่วมก่อตั้งเป็นผู้นำบริษัทใหม่ ซึ่งจะมีอิสระในการจัดการตัวเอง โดยจะลงทุนเริ่มต้น 10,000 ล้านหยวน 1,500 ล้านดอลลาร์ ในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ

รถยนต์จาก Xiaomi

ความเคลื่อนไหวข้างต้น มีขึ้นหลังจากที่มีรายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าทาง Xiaomi รถไฟฟ้า กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจา เพื่อใช้โรงงานแห่งหนึ่งของ Great Wall Motors ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ในจีน เพื่อให้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ของ Xiaomi

โดยจะวางจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า ในตลาดมวลชน (Mass Market) เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ของ Xiaomi ทั้งนี้บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของจีนหลายแห่ง ต่างขยับขยายรุกคืบเข้ามา ในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า

ไม่นานมานี้ของเดือนมกราคมที่ผ่านมา Baidu บริษัทเสิร์ชเอนจินที่มีชื่อเสียงในจีน ได้ออกมาเปิดเผยเพิ่มประสิทธิภาพการทุ่มงบใน EV โดยมีการจับมือกับ Geely Automobile Holdings ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ในประเทศ และต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ Huawei Technologies Co., Ltd. ผู้นำในการผลิตสมาร์ตโฟนจากจีน Xiaomi Civi ราคา มีการพูดคุยเพื่อหาข้อตกลงกับ Changan Automobile บริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ในประเทศ ในการออกแบบรถยนต์ไฟฟ้า

Xiaomi ออกมาสั่นสะเทือนวงการ จากการที่ออกมาเปิดเผยว่า ทางบริษัทกำลังหันมาเข้าสู่ธุรกิจรถยนต์ เกิดอะไรขึ้นที่ เหลย จุน ผู้ก่อตั้ง Xiaomi ได้หันมาสนใจทำธุรกิจนี้ ทั้ง ๆ ในตอนนี้การแข่งขันรถยนต์ไฟฟ้าในจีน มีคู่แข่งอยู่มากมาย

สัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวที่ฮือฮาในวงการเทคโนโลยีจีนว่า “เสี่ยวหมี่” (Xiaomi) 70mai M300 ราคา ซึ่งเดิมผลิตสมาร์ตโฟน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ กำลังซุ่มคิดจะเริ่มทำแบรนด์รถยนต์ของตัวเอง

มีสื่อออกมาเปิดเผยว่า เหลย จุน ประธานบริษัท Xiaomi คิดเห็นคือการผลิตรถยนต์เป็นสิ่งที่น่าสนใจอยู่มาก และจะเป็นรายได้หลักของบริษัท ในอนาคตเลยก็ว่าได้ แท้จริงแล้ว Xiaomi ไม่ใช่บริษัทเทคโนโลยีจีนรายแรก ที่เดินเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า

เมื่อเดือนที่แล้ว Baidu เสิร์ชเอ็นจิ้นรายใหญ่ของจีน 70mai M300 Pantip ก็ประกาศสร้างบริษัทรถยนต์อัจฉริยะของตนเอง โดยจะร่วมทุนกับ Geely (บริษัทแม่ของวอลโว่) เจ้าพ่อเทคโนโลยี 5G อย่างหัวเว่ยก็ได้ประกาศว่า จะร่วมมือกับ Chang An Auto

ส่วนยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีระบบอย่าง Qualcomm ก็มีความร่วมมือกับ Great Wall Motor ในขณะที่อาลีบาบาก็ได้จับมือกับ SAIC Motor เพื่อพัฒนารถยนต์อัจฉริยะ ไม่ใช่เฉพาะในจีนเท่านั้น ในสหรัฐ Apple ก็จับมือกับฮุนไดเพื่อพัฒนารถยนต์อัจฉริยะ

รถยนต์จาก Xiaomi

ทางด้านอีคอมเมิร์ซชื่อดังอย่างอเมซอน มีการผลิต Zoox รถยนต์แท็กซี่ไฟฟ้าที่ไม่ต้องคนขับ หลายคนให้ความเห็นว่า ถ้าXiaomiคิดที่จะก้าวเข้าสู่วงการ ผลิตรถยนต์อย่างที่ข่าวที่ออกมาจริง น่าจะมีการใช้หลักการผลิต เช่นเดียวกับบริษัทอื่น ๆ แน่นอน

โดยยึดหลักการเอาบริษัททางด้านรถยนต์ ร่วมมือกันทำงาน ซึ่งทางบริษัทรถยนต์จะดูแลในเรื่องการผลิตตัวรถ ส่วนXiaomiผู้นำทางด้านเทคโนโลยี จะดูแลในเรื่องระบบปฏิบัติการรถยนต์อัจฉริยะ

จากความสำเร็จของยักษ์ใหญ่ ข่าว รถยนต์ไฟฟ้า ล่าสุด รถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่าง เทสลา และการบุกตลาดจีนของเทสลา ในช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทเทคโนโลยี ยักษ์ใหญ่ของจีน ต่างมองว่าเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ มีศักยภาพทางธุรกิจมหาศาล

หลายคนมักพูดกันว่า เทรนด์ใหม่ของวงการรถยนต์ คือรถยนต์พลังงานไฟฟ้า แต่จริง ๆ ไม่ใช่เพียงต้องเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังต้องเป็นรถยนต์อัจฉริยะด้วย รถยนต์อัจฉริยะต้องการ การพัฒนาทั้งซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และระบบปฏิบัติการ

ในขั้นแรกเราอาจนึกถึง รถยนต์ที่เราสามารถพูดสั่งการ รถสวย รถซิ่ง วิ่งทำกิน ให้รถยนต์ทำสิ่งต่าง ๆ ได้ ลดเร่งแอร์ เปิดเพลง เตือนเมื่อมีสิ่งกีดขวาง ฯลฯ แต่เมื่อพัฒนาไปถึงขีดสุด ย่อมจะเข้าสู่ยุครถยนต์ไร้คนขับ

ซึ่งรถสามารถขับเคลื่อนบนถนน ได้เองด้วยปัญญาประดิษฐ์ คำถามสำคัญก็คือ เพราะเหตุใด เหลย จุน เจ้าของเสี่ยวหมี่ จึงมองว่าการกระโดดเข้าสู่ธุรกิจรถยนต์มีความสำคัญ ในระดับยุทธศาสตร์สำหรับบริษัท ทั้ง ๆ ที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของจีน ตอนนี้ประกอบด้วยผู้เล่น มากจนเกินตัว แข่งขันกันดุเดือดเลือดพล่าน

หลายคนถามว่า ยังมีพื้นที่ให้ผู้เล่นหน้าใหม่อีกหรือ คำตอบก็คือ ในอนาคตรถยนต์ไร้คนขับ จะมีลักษณะเหมือนเป็นแพลตฟอร์มอัจฉริยะ หากรถยนต์ไร้คนขับเกิดขึ้นจริง ย่อมจะเปลี่ยนวิถีชีวิตมนุษย์มหาศาล

ต่อไปเราสามารถนั่งประชุม ทำงาน ดูหนังฟังเพลง ทำกิจกรรมต่างๆ ภายในรถได้ตลอดเวลา เพราะเราไม่ต้องขับรถเองอีกต่อไป หากมองในแง่นี้ รถยนต์ก็จะคล้ายกับสมาร์ตโฟนในเวลานี้

ปัจจุบันเราใช้อินเทอร์เน็ต และเสพสาระความบันเทิงต่าง ๆ ผ่านสมาร์ตโฟน ทั้งสมาร์ตโฟนยังเป็นตัวเชื่อม เข้ากับอุปกรณ์อัจฉริยะต่าง ๆ นึกถึงสินค้าต่าง ๆ ของเสี่ยวหมี่ ที่เราสามารถควบคุมได้ด้วยแอพในสมาร์ตโฟน

หากจะมองในอนาคต รถยนต์ที่ไม่ต้องอาศัยคนขับ จะเป็นนวัตกรรมสำคัญในการใช้ชีวิตประจำวัน ของคนส่วนใหญ่ไม่เพียงการเดินทางเข้าสู่ธุรกิจรถยนต์ ดังนั้นจึงเป็นการบุกเบิกพัฒนาเทคโนโลยี ระบบยานยนต์และ Ecosystem

สำหรับการใช้ชีวิตยุคใหม่ แนะนำ รถแห่งอนาคต ที่น่าสนใจ ที่เหมาะสมกับยุครถยนต์ไร้คนขับ ที่กำลังจะมาถึง การลงทุนร่วมกับ บริษัทรถยนต์ดั้งเดิม จะทำให้บริษัทเทคโนโลยี สามารถเข้ามาช่วยดูห่วงโซ่การผลิต และระบบของรถทั้งระบบ

ไม่เหมือนเดิมจากยุคเก่า ที่บริษัทเทคโนโลยีจะมีหน้าที่ในการขายซอฟต์แวร์ และถูกจ้างจากบริษัทรถยนต์ ให้พัฒนาระบบยานยนต์ต่าง ๆ นั่นเลยทำให้นึกไม่ถึงการเกี่ยวข้อง ในส่วนของระบบของรถยนต์ รวมถึงการพัฒนารถยนต์ที่ไม่ต้องอาศัยคนขับ

ซึ่งนับว่าเป็นการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ชั้นสูง ยังจะมีศักยภาพที่จะนำผลการพัฒนา มาแตกยอดต่อหน่อ ในอุปกรณ์อัจฉริยะอื่น ๆ ในโลกยุค Internet of Things ได้อีกด้วย

เช่นเดียวกับที่การพัฒนา เทคโนโลยีอวกาศในสมัยก่อน เป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต รวมทั้งแตกยอดต่อหน่อออกมา เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในชีวิตประจำวัน และในผลิตภัณฑ์มากมาย

หัวใจสำคัญข้อหนึ่ง ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจรอบ 5 ปีใหม่ของจีน คือเรื่องพลังงานสะอาด โดยมีอุตสาหกรรมสำคัญ คืออุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานสะอาด มีการคาดการณ์ว่า ภายในประเทศจีน จะมียอดขายรถยนต์พลังงานสะอาดคิดเป็น 50% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมดในจีน

รถยนต์จาก Xiaomi

ภายในปี 2035 นักวิเคราะห์หลายคนเคยตั้งข้อสังเกตว่า การเข้ามาลงทุนสร้างโรงงานขนาดมหึมาของเทสลา ที่มหานครเซี่ยงไฮ้ในประเทศจีน อาจเปรียบเทียบได้กับการเข้ามาลงทุน ผลิตไอโฟนของAppleในจีน

เมื่อ 15 ปีที่แล้ว ซึ่งในตอนนั้นส่งผลให้ เกิดห่วงโซ่การผลิตสมาร์ตโฟน DDPAI Mini และนำไปสู่การเกิดบริษัทสมาร์ตโฟน ของจีนเองมากมายเช่นเดียวกัน การเข้ามาของเทสลาในวันนี้ ก็จะนำไปสู่การพัฒนา ห่วงโซ่การผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและการพัฒนาเทคโนโลยี สำหรับรถยนต์อัจฉริยะ

ซึ่งกลายมาเป็นจุดเริ่มต้น ของสมรภูมิใหม่ ที่จะตัดสินอนาคตของบริษัทเทคโนโลยีแนวหน้าของจีนในอดีต บริษัทเทคโนโลยีจีน ที่มองเห็นโอกาสการเปลี่ยนผ่านสู่ยุค Mobile Internet ที่ชีวิตประจำวันของเรา อยู่กับสมาร์ตโฟน กลายมาเป็นผู้ชนะในเกมธุรกิจในวันนี้

สำหรับในอนาคตนั้น หากมองในระดับยุทธศาสตร์ธุรกิจแล้ว บริษัทเทคโนโลยีที่สามารถพัฒนา โมเดลรถยนต์อัจฉริยะ ที่ตอบโจทย์ชีวิตยุครถยนต์ไร้คนขับ ย่อมจะเป็นผู้ชนะในเกมธุรกิจระยะยาว @UFA-X10 

ด้วยการแข่งขันที่ดุเดือด และเงินทุนมหาศาลที่ลงไปกับ การพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์อัจฉริยะในจีน ย่อมส่งผลผลักให้โลกรถยนต์ เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นี่ยังจะเป็นอีกหนึ่งสมรภูมิ การแข่งขันระหว่างฝั่งสหรัฐ และฝั่งจีนว่าใครจะเป็นผู้ชนะ ในสมรภูมิรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และรถยนต์อัจฉริยะ และบุกยึดตลาดรถยนต์โลกในอนาคต

 

เรียบเรียงโดย อลิส